ผักและผลไม้สด vs แช่แข็ง — อันไหนดีต่อสุขภาพ?
ผักและผลไม้สด เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคุณแน่นอน
เพราะ เต็มไปด้วยวิตามินแร่ธาตุ และ สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยดูแล
สุขภาพได้เป็นอย่างดี การกินผักและผลไม้มากขึ้น ช่วยป้องกันตัวคุณ
จากโรคหัวใจ แต่ใช่ว่าเราจะได้ผักผลไม้สด เพื่อมากินได้เสมอไป
ผักผลไม้แช่แข็ง จึงอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี สำหรับการดูแลสุขภาพ
แต่ก็ยังคงเป็นที่สงสัยว่า เราจะได้รับประโยชน์จากการกิน
เหมือนที่เรากินผักผลไม้สดหรือเปล่า นี่คือการเปรียบเทียบให้เห็น
ถึงการกินแบบสด กับแบบแช่แข็ง
ผักและผลไม้สด
ผักและผลไม้สดส่วนใหญ่ จะถูกนำมาขายคุณ ก่อนที่จะสุก
เพราะว่าการขนส่ง เป็นช่วงเวลา ที่จะทำให้มันสุกพอดี ก่อนเดินทางมาถึง เพื่อขาย
นอกจากนี้ ยังเป็นการบ่มเพาะประโยชน์ วิตามิน แร่ธาตุ ให้ได้ประโยชน์เต็มที่
เมื่อมาถึงมือของคุณ ในสหรัฐอเมริกา ผักและผลไม้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 3 วัน จนถึงหลายสัปดาห์
ในระหว่างการขนส่ง ก่อนที่จะมาถึงศูนย์กระจายสินค้า โดยในระหว่างการขนส่ง โดยทั่วไป
ผลิตภัณฑ์สด จะถูกเก็บไว้ในบรรยากาศ ที่เย็นมาก เพื่อรักษาคุณภาพ และ
ไม่ได้ใช้สารอะไร เพื่อจัดการ การจัดเก็บอีก
ผักและผลไม้แช่แข็ง
ผักและผลไม้ที่จะถูกนำมาแช่แข็ง จะเลอืกอันที่สุกแล้ว เพื่อโภชนาการสูงสุด
เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ผักมักจะถูกล้าง ลวก ตัด แช่แข็ง และบรรจุภาย ในไม่กี่ชั่วโมง
ผลไม้ไม่ต้องลวก เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อผิวของผลไม้
แต่รักษาคุณภาพด้วยกรดแอสคอร์บิก (รูปแบบของวิตามินซี)
หรือเพิ่มน้ำตาลเพื่อป้องกันการเน่าเสีย
โดยปกติแล้วจะไม่มีการเพิ่มสารเคมี ก่อนแช่แข็ง
แม้เป็นเรื่องน่าเสียดายว่า
วิตามินบางอย่างจะหายไปบ้าง ในกระบวนการ การขนส่ง
แต่ถือว่ายังคงประโยชน์ ของสิ่งที่แช่ไว้ ได้อย่างมากที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง คือการลวก เพราะการลวก
เรารู้ดีอยู่แล้วว่า อาจจะทำให้เสียวิตามินบางอย่าง
เช่น วิตามินซี และ บี เพราะว่าสารพวกนี้
สามารถละลายน้ำหายไปได้ แต่ถ้าต้องแลกกับอาหารที่เน่า เพราะไม่ได้ลวก
เรายอมเอาไปลวกก่อนแช่แข็งจะดีกว่า และการลวก
ยังช่วยฆ่าเชื้อโรค และ แบคทีเรียต่างๆ ที่ติดมากับอาหารได้อีกด้วย
โดยการสูญเสียประโยชน์ไปนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งที่ลวก และเวลาในการลวก
โดยทั่วไปการสูญเสียอยู่ในช่วง 10-80% ค่าเฉลี่ยคือเสีย 50 %
แต่การศึกษาบางชิ้นบอกว่า แม้เสียวิตามินไป แต่ยังคงรักษา สารต้านอนุมูลอิสระไว้ได้
ผักและผลไม้สด vs แช่แข็ง
สารอาหารลดลง ในระหว่างการเก็บรักษา
ไม่นานหลังเก็บเกี่ยวสิ่งที่สุกแล้ว เรารู้ดีว่า เราจะเสียประโยชน์ไปเรื่อยๆ
หากปล่อยให้มันเน่าไป ทั้งที่ไม่ได้กิน และ เก็บรักษาด้วยวิธีการใดๆ
ใช่ว่าการแช่เย็น จะช่วยคงประสิทธิภาพไว้ได้ มันแค่เครื่องยืดเวลา
วิตามินซีในผักสด เริ่มลดลงทันที หลังจากการเก็บเกี่ยว และลดต่อเนื่อง แม้เก็บรักษา
ตัวอย่างเช่น ถั่วเขียว แสดงให้เห็นว่า ได้สูญเสียวิตามินซีได้ถึง 51%
ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการเก็บเกี่ยว
ในผักที่เก็บไว้แช่เย็น หรือ ที่อุณหภูมิห้อง สารต้านอนุมูลอิสระลดลงด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิตามินซีสามารถหายไปได้ง่าย ในระหว่างการเก็บรักษา
สารต้านอนุมูลอิสระเช่นแคโรทีนอยด์และฟีนอล กลับเพิ่มขึ้นจริง
นี่อาจเป็นเพราะ การสุกมากขึ้นนั่นเอง
ความจริงแล้ว การศึกษาค้นพบว่า ระดับของประโยชน์ของ 2 อย่าง
ต่างกันแค่เล็กน้อยเท่านั้น หลักฐานแสดงให้เห็นว่า การแช่แข็ง
สามารถรักษาคุณค่า ของสารอาหาร และ ปริมาณทางโภชนาการ
ของผลผลิตได้ ไม่ต่างจากของสด เพราะมันหายไปน้อยมาก
นอกจากนี้ระดับของวิตามิน เอแคโรทีนอยด์ วิตามิน
แร่ธาตุ และ เส้นใย มีความคล้ายคลึงกัน ในของสด และ แช่แข็ง
โดย การศึกษาเปรียบเทียบ ผลผลิตที่ซูเปอร์มาร์เก็ต กับ ของแช่แข็ง
– เช่นถั่ว, ถั่วเขียว, แครอท, ผักโขม และ บรอกโคลี สารต้านอนุมูลอิสระยังคงอยู่
เมื่อเปรียบ ในการเก็บแบบแช่แข็ง กับ ปล่อยทิ้งไว้ ตั้งแต่เก็บเกี่ยว
ตัวอย่างเช่น ถั่วแช่แข็ง หรือ ผักโขม อาจมีวิตามินซี มากกว่า ถั่วสด ที่ซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ต
หรือผักโขม ที่เก็บไว้ที่บ้าน เป็นเวลาหลายวัน (หลักฐานประกอบ)
สําหรับผลไม้บางชนิด การอบแห้ง แช่แข็ง ส่งผลให้มีวิตามินซี สูงขึ้น เมื่อเทียบกับพันธุ์สด
นอกจากนี้ การศึกษาหนึ่งชี้ให้เห็นว่า กระบวนการที่ดําเนินการ เพื่อแช่แข็งของสด
อาจเพิ่มความพร้อม ของเส้นใยอาหาร โดยการทําให้ละลายน้ำ ได้มากขึ้น
ผักและผลไม้สด vs แช่แข็ง (Take Aways)
ผักและผลไม้ ที่ผ่านการอบสดใหม่ โดยตรงจากฟาร์มหรือสวนของคุณเอง มีคุณภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม หากคุณกําลังช็อปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
ผลผลิตแช่แข็ง อาจมีคุณค่าทางโภชนาการ เท่ากับ หรือ มากกว่าของสด
ในชีวิตจริง อาจจะพูดได้ว่า ผัก หรือ ผลไม้ ที่ผ่านการแช่แข็ง
เหมาะกับการใช้ชีวิต ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และ จับต้องได้
มากของสด ที่เก็บจากสวนทันทีเลยด้วยซ้ำ