กินจุกจิกเสี่ยงต่อโรค
การกิน ถือเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรม ที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราได้โดยตรง
คนที่มีปัญหาในการกิน หรือ มีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ เช่น
กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่หิวแต่ก็ยังกิน กินอาหารเยอะกว่าคนอื่นๆ
คุณอาจเข้าข่ายเป็น “โรค” ได้นะคะ โรคเกี่ยวกับการกินที่ปล่อยไว้
อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง ต่อสุขภาพร้ายแรงได้
กินจุกจิก ระวัง! โรคเหล่านี้อาจถามหา
หากคุณมีพฤติกรรมการกิน ที่ผิดปกติ อย่างโรคกินไม่หยุด
อาจส่งผลให้คุณ มีปัญหาสุขภาพ หรือ เป็นโรคร้ายแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนี้
- ภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน
การที่คุณกินไม่หยุด ย่อมส่งผลให้คุณน้ำหนักขึ้นได้ไม่ยาก
ผู้ป่วยโรคกินไม่หยุด ส่วนใหญ่มักมีปัญหาน้ำหนักเกิน
เพราะกินอาหารปริมาณมาก ติดต่อกันบ่อยๆ
ในระยะเวลาอันสั้น และ มักไม่ค่อยออกกำลังกาย
จนสุดท้ายกลายเป็นโรคอ้วน
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคกินไม่หยุด ทำให้คุณกินเยอะ จนน้ำหนักเกิน
หัวใจจึงสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงปอดและอวัยวะส่วนต่างๆ
ในร่างกายได้ยากขึ้น เมื่อคุณอ้วน มีไขมันเยอะ
โดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง หรือ ที่เรียกกันว่า “พุง”
จะทำให้คุณเสี่ยง เป็นโรคความดันโลหิตสูง ภาวะคอเลสเตอรอลสูง
และภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งล้วนแต่เพิ่มความเสี่ยง
ในการเป็นโรคหัวใจ และ หลอดเลือด
เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหัวใจวาย
และ โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2
ผู้ที่เป็นโรคกินไม่หยุดมีความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่หายขาด ต้องรักษาต่อเนื่องตลอดชีวิต
ยิ่งคุณกินไม่หยุดก็จะยิ่งทำให้ควบคุมปริมาณอาหาร
ระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาก จึงอาจส่งผล
ให้เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
และควบคุมอาการของโรคหรือรักษาได้ยากกว่าคนอื่น
- โรคทางอารมณ์
ผู้ป่วยโรคกินไม่หยุด มักรู้สึกผิด
หรือรู้สึกแย่ กับกับพฤติกรรม การกินของตัวเอง
จนส่งผลให้เป็นโรคทางอารมณ์ หรือโรคทางจิตเวชร้ายแรง
เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล
หรือ บางรายอาจมีพฤติกรรมใช้สารในทางที่ผิด
(Substance abuse) คือ ใช้ยาหรือสารบางอย่างจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ปัญหาสุขภาพอื่นๆ
นอกจากปัญหาสุขภาพข้างต้น
โรคนี้ยังสามารถทำให้ผู้ป่วยมีภาวะคอเลสเตอรอลสูง
เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับอ่อน
มะเร็งต่อไทรอยด์ รวมไปถึง
ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไข่ไม่ตก
จึงทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากขึ้นด้วย
อาการและสัญญาณของโรคกินจุกจิก
หากคุณกินเป็นช่วงๆ ในปริมาณที่เยอะกว่าปกติ
และควบคุมตัวเองให้หยุดกินไม่ได้ ร่วมกับมีอาการ
หรือพฤติกรรมดังต่อไปตั้งแต่ 3 ข้อขึ้นไป
อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งภายในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
นั่นหมายถึง คุณอาจเสี่ยงเป็นโรคกินจิกจุกได้
- กินเร็วกว่าปกติ
- กินจนรู้สึกจุก
- กินอาหารในปริมาณมากแม้จะไม่รู้สึกหิว
- กินอาหารคนเดียวเพราะอายที่ตัวเองกินเยอะ
- รู้สึกรังเกียจตัวเอง ซึมเศร้า หรือรู้สึกผิดหลังจากแสดงพฤติกรรมข้างต้น
กินจุกจิกเสี่ยงต่อโรค
กินจุกจิกเป็นปัญหาที่มักพบได้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
และในตอนนี้สถานการณ์ของโรคโควิด-19 กลับมาอีกแล้ว
ส่วนใหญ่ก็จะกักตัวอยู่บ้าน ยิ่งไม่มีไรทำ ก็ยิ่งกินหนักเข้าไปใหญ่
เราอาจจะทำจนเป็นนิสัยโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
ว่าการกินแบบนี้ทำให้เราอ้วน การกินอาหารเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุด
เพราะฉะนั้น เราควรเรียนรู้ว่าพฤติกรรมการกินแบบไหน
ทำให้เราอ้วนและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
แต่สำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะหยิบฉวยอาหารเข้าปากก็ควรระวัง
กันด้วยนะคะ อาจจะเสี่ยงต่อโรคกินจุกจิกได้
และเมื่อเรารู้แล้ว เราจะสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมเหล่านั้นได้
หากเป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร
การรักษาโรคกินจุกจิก อาจต้องใช้วิธีการรักษาหลายแบบพร้อมกัน ดังนี้
- การบำบัด
เช่น จิตบำบัดความคิดและพฤติกรรมบำบัด (Cognitive Behavioural
Therapy / CBT) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนความคิด
ช่วยให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น เลิกคิดลบ จะได้ไม่นำไปสู่การกินไม่หยุด
- การให้คำปรึกษาเรื่องโภชนาการ
โดยนักกำหนดอาหาร หรือนักโภชนาการ
เพื่อให้ผู้ป่วยกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น
- การใช้ยา
เช่น ยาลดความอยากอาหาร
(appetite suppressants) ยาต้านซึมเศร้า
(antidepressants) ที่สั่งจ่ายโดยแพทย์
ซึ่งอาจช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นและช่วยยับยั้งการกินไม่หยุดได้
หากถึงขั้นนี้ อย่าปล่อยไว้! ควรรีบไปหาคุณหมอ
โรคกินจุกจิกนี้ถือเป็นโรคที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้มากมาย
หากคุณปล่อยปละละเลย อาจเสี่ยงถึงชีวิต
และหากคุณได้มีพฤติกรรมหรืออาการเหล่านี้
ควรรีบไปพบคุณหมอทันที
- น้ำหนักขึ้นลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ
- คิดอยากทำร้ายตัวเอง
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินไม่ได้ แม้จะมีครอบครัว เพื่อน หรือคุณหมอช่วยเหลือ
- รู้สึกซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
- ต้องจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการใช้ยาหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์