ทานวิตามินซีอย่างไรให้ได้คุณค่าสูงสุด

  • Last modified on:3 ปี ago
  • Reading Time:2Minutes
  • Post Words:24Words
  • PostView Count:333Views

ทานวิตามินซีอย่างไรให้ได้คุณค่าสูงสุด

 

           ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 พวกเราต่างก็ทราบกันดีว่าภูมิคุ้มกันร่างกาย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้เราเกิดอาการเจ็บป่วยได้ยากมากขึ้น มีสุขภาพแข็งแรง และดีต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย แต่ทั้งนี้หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า “วิตามินซี ” นั้น ถือเป็นวิตามินสำคัญที่มีส่วนในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น เนื่องจากวิตามินซีจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม วันนี้ สุขภาพดีดี.com จึงมีความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการวิตามินซีมาฝากกันว่า ทานวิตามินซีอย่างไรให้ได้คุณค่าสูงสุด และมีแนวทางในการทานอย่างไรได้บ้าง เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากที่สุด

 

ภูมิคุ้มกันจะแข็งแรงได้ ร่างกายต้องได้วิตามินซีเท่าไรต่อวัน?

           ในกระบวนการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดได้นั้น ร่างกายของมนุษย์เราต้องการวิตามินอยู่ที่ 1,000 – 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่อย่างไรก็ตามอ้างอิงจากผลการวิจัยศึกษาเรื่องการดูดซึมวิตามินซีในร่างกายคนเรานั้น บ่งชี้ว่า ร่างกายจะดูดซึมวิตามินซีได้เฉลี่ยประมาณ 200-400 มิลลิกรัมต่อครั้งเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า ต่อให้เราทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ร่างกายก็ดูดซึมได้เพียงแค่ 400 มิลลิกรัมต่อครั้งเท่านั้น 

           ดังนั้นการรับประทานวิตามินซีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ แบ่งทานวิตามินซีขนาด 500 มิลลิกรัม 2-6 มื้อต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินครบถ้วนและดูดซึมวิตามินซีได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงนั่นเอง เพราะถ้าหากได้รับในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ จะทำให้ร่างกายขับวิตามินซีออกมานั่นเอง

 

ข้อควรระวังในการรับประทานวิตามินซี

 

           นอกจากการรับประทานให้สอดคล้องกับความต้องการของร่างกายแล้ว ข้อควรระวังสำคัญของการรับประทานวิตามินซีก็คือ เมื่อทานวิตามินซีแล้วควรดื่มน้ำตามมากๆ อย่างน้อย 1-2 แก้ว เพื่อไม่ให้เสี่ยงกับการเกิดตะกอนจนอาจเป็นนิ่วได้ ดังนั้น ทางที่ปลอดภัยที่สุดเลยจึงควรทานวิตามินซีในช่วงระหว่างวัน และควรหลีกเลี่ยงการทานก่อนนอน เนื่องจากเราอาจไม่ได้ดื่มน้ำตามมากอย่างเพียงพอ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางระบบย่อยอาหาร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เนื่องจากการรับประทานวิตามินซีมาเกินไปอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย เช่น แสบท้อง หรือ ถ่ายเหลว เป็นต้น

 

วิธีการรับประทานวิตามินซีให้ได้คุณค่าสูงสุด

 

  • ทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นการรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ
  • หากต้องการทานเพื่อบรรเทาหวัด ทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน ซึ่งสารนี้จะเป็นสารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40
  • ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะวิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด อีกทั้งช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
  • การทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพวิตามินซี ทำด้วยการทานร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์
  • เมื่อทานวิตามินซีแล้วจะต้องทำการสังเกตร่างกายของตนเองอยู่เสมอ เราสามารถสัญญาณเมื่อได้รับวิตามินซีเกินได้ดังนี้ มีอาการท้องเสีย ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่ทานวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก ๆ เช่น 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเป็น เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็สามารถย่อยวิตามินซีได้วันละหลายกรัมเลยทีเดียว

ชนิดของวิตามินซี

           เนื่องจากวิตามินซีมีหลากหลายรูปแบบ ในการเลือกรับประทานวิตามินซีในชนิดนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล ซึ่งวันนี้ สุขภาพดีดี.com ได้จำแนกชนิดของวิตามินซีออกมาทั้งหมด 6 ประเภท ดังนี้

 

           1.วิตามินซีแบบอัดเม็ด

           วิตามินซีประเภทนี้โดยทั่วมีขนาดตั้งแต่ 25 – 1,000 มิลลิกรัม แต่ขนาดยอดนิยมทั่วไปคือ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งหากเป็นไปได้ควรเลือกทานที่ระบุว่าเป็นแบบ Buffered, Sustained Release หรือ Slow Release เพราะตัววิตามินซีจะค่อย ๆ ปล่อยจากเม็ดยาช้า ๆ ทำให้วิตามินซีออกฤทธิ์ได้นานขึ้น อีกทั้งช่วยให้ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่ระดับวิตามินซีในกระแสเลือดที่ได้รับนั้นไม่แตกต่างจากรูปแบบเม็ดทั่วไปที่ปล่อยวิตามินซีแบบทันที

 

           2. วิตามินซีแบบเม็ดอม


           มีขนาดของวิตามินซีแบบอมตั้งแต่ 25 – 500 มิลลิกรัม เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกลืนเป็นเม็ดหรือไม่ชอบทานยาเม็ด มีข้อดีในด้านของรสชาติ เนื่องจากแบบเม็ดอมจะมีการแต่งกลิ่นแต่งรสให้สามารถรับประทานได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตามการอมวิตามินซีแบบเม็ดบ่อย ๆ กรดที่ออกมาจะทำให้เคลือบฟันบางจนฟันกร่อนได้

           3. วิตามินซีแบบเม็ดเคี้ยว 


           โดยทั่วไปในท้องตลาดจะมีขนาด 30 มิลลิกรัม เหมาะกับเด็ก เพราะมีรสหวานชวนทาน และสนุกไปกับการเคี้ยว แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีรสชาติที่หวานอาจจะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งในปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูงอาจจะทำให้เกิดฟันผุได้หากรับประทานเป็นประจำ ดังนั้นจำเป็นต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของฟันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในช่องปากในอนาคต

 

           4. วิตามินซีแบบเม็ดฟู่

 

           วิตามินซีแบบเม็ดฟู่ในท้องตลาดส่วนมากจะมี ขนาด 500 และ 1,000 มิลลิกรัม โดยวิธีการรับประทานที่ถูกต้องควรนำไปละลายในน้ำและรอสักครู่จนฟองหมด เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานเข้าไปอาจเกิดการแน่นท้องในภายหลัง หลังจากรับประทานได้ วิตามินซีชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้ ข้อดีคือเหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึม

 

           5. วิตามินซีแบบเม็ดแคปซูล

           วิตามินซีแบบแคปซูลมีทั้งรูปแบบของแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม แต่ละแคปซูลมีขนาด 500 มิลลิกรัม ข้อดีวิตามินแบบแคปซูล คือ กลืนง่าย สบายคอมากกว่าวิตามินซีรูปแบบอัดเม็ด

 

           6. วิตามินซีแบบสารละลายเพื่อฉีด 

           วิตามินซีแบบสารละลายเพื่อฉีดจะมีขนาดอยู่ที่ 500 มิลลิกรัม เป็นวิตามินซีรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดกับการป้องกันหวัด แต่อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีด ข้อดีของการฉีดวิตามินซีเข้าร่างกายคือ ออกฤทธิ์เร็วและร่างกายสามารถเอาวิตามินซีไปบำรุงซ่อมแซมได้ทันที เพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร

 

บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาว เพื่อให้คะแนนบทความ

Average rating 4 / 5. Vote count: 4