ท้องผูกแก้อย่างไร

  • Last modified on:3 ปี ago
  • Reading Time:2Minutes
  • Post Words:23Words
  • PostView Count:250Views

ท้องผูกแก้อย่างไร

          ในปัจจุบัน คนไทยประสบกับปัญหาท้องผูกกันเพิ่มมากขึ้นจากสมัยก่อน เนื่องจากอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้นมีส่วนประกอบของผัก และ ผลไม้ น้อยลง และมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์และแป้งมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อาหารปิ้งย่าง บุฟเฟ่ หรือแม้กระทั่งอาหารขยะหรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ Junk food เช่น เบอร์เกอร์ เฟรนฟราย เป็นต้น ซึ่งอาหารแต่ละอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาหารท้องผูก

          หากเราเป็นท้องผูกแล้วมักจะหาตัวช่วยในการถ่ายโดยการรับประทานตัวช่วย หรือ ยาถ่าย ซึ่งในระยะยาวหากรับประทานบ่อยก็จะเกิดผลเสียกับร่างกายได้เช่นกัน เนื่องจากการรับประทานอาหารเสริมหรือยาที่ช่วยในการถ่ายไปในปริมาณมาก และติดต่อกันเป็นเวลานานนั้น จะทำให้ร่างกายจดจำและเมื่อหยุดรับประทานแล้วจะทำให้ถ่ายยากกว่าเดิม

          ดังนั้นวันนี้ สุขภาพดีดี.com ได้ทำการรวบรวมข้อมูลดีๆเกี่ยวกับหัวข้อ ท้องผูกแก้อย่างไร มาให้ทุกคนได้อ่านกัน โดยสิ่งที่รวบรวมมาในวันนี้จะเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ และเป็นวิธีทางธรรมชาติ มาเริ่มกันที่วิธีแรกกันเลยค่ะ

 

วิธีที่ 1 ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น

          ตามปกติแล้วร่างกายของเรามีน้ำมากถึง 70% ซึ่งส่งผลกับทุกระบบในร่างกาย หากดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยจนเกินไปนั้นจะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายนั้นผิดปกติ 

          ดังนั้นเราควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือ 6-8 แก้ว ซึ่งหากมีอาการท้องผูกควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร (ปริมาณมากขึ้นกว่าคนปกติ) ซึ่งน้ำจะทำให้เราสามารถอุจจาระได้ง่ายขึ้น ขับถ่ายง่ายขึ้นอีกด้วย

 

วิธีที่ 2 รับประทานอาหารเช้าให้มากขึ้น

          เนื่องจากตอนเช้าลำไส้ใหญ่ทำงานมากที่สุด อาหารเช้าจะทำการกระตุ้นกระเพาะอาหารและลำไส้ให้บีบตัวเป็นปกติ จนรู้สึกต้องการถ่ายในตอนเช้า

 

วิธีที่ 3 รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น

          เนื่องจากผักผลไม้มีส่วนประกอบของไฟเบอร์ที่จะช่วยเรื่องของการขับถ่าย และควรกินพร้อมกากไม่ใช่แบบคั้นน้ำ เพื่อให้ได้รับกากใยอาหารเพียงพอต่อการขับถ่าย

          ยกตัวอย่างเช่น ผักใบเขียว อัลมอนด์ ฟักทอง หรือเมล็ดทานตะวัน เมล็ดChia และเมล็ดแฟลกซ์ อาหารเหล่านี้มีเส้นใยในตัวเองสูงมาก

 

วิธีที่ 4 รับประทานอาหารที่มี prebiotic และ probiotic

          Probiotics เป็นแบคทีเรียที่ดีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซับสารอาหารและช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วน Prebiotics เป็นเหมือนปุ๋ยให้กับโปรไบโอติกช่วยเสริมสร้างให้ แบคทีเรียโปรไบโอติกมีพลังงานและเจริญเติบโต

  • อาหารที่อุดมด้วย Prebiotics ได้แก่ หน่อไม้ฝรั่งดิบ หัวหอม กระเทียม กล้วยดิบ 
  • อาหารที่อุดมด้วย Probiotics ได้แก่ กะหล่ำปลีดอง ชาหมัก kefir กิมจิ และผักดอง

 

วิธีที่ 5 เล่นโยคะ

          การเล่นโยคะด้วยท่าบิดง่ายๆโดยวางบนพื้นดึงหัวเข่าไปที่หน้าอกของคุณบิดหัวเข่าไปทางขวาและหันศีรษะไปทางซ้าย นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ตราบเท่าที่รู้สึกดีและทำสลับข้างกันไป ท่านี้จะช่วยผ่อนคลายระบบทางเดินอาหารกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ

 

วิธีที่ 6 การนวดหน้าท้อง

          การนวดหน้าท้องสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางนวดบริเวณหน้าท้องตามเข็มนาฬิกาเพื่อกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณท้องและทำลายอาหารที่อาจติดอยู่ในลำไส้ 

          การนวดหน้าท้องยังสามารถทำได้เมื่อรู้สึกท้องอืดหรือปวดท้องได้ เพราะจะทำให้คุณรู้สึกโล่งอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การหายใจลึกๆแล้วผ่อนลมออกมาช้าๆสักสองถึงสามครั้งก็จะช่วยได้ดี

 

          หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพ หรือ ปรึกษาเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ สามารถแอด Line มาได้เลยที่ Line@ : @healthd หรือ Click ที่ลิงก์ด้านล่างค่ะ ทางเพจเรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพและการรับประทานอาหารเสริม บริการตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาว เพื่อให้คะแนนบทความ

Average rating 0 / 5. Vote count: 0