ฝันร้ายสัญญาณบอกปัญหาสุขภาพ
ฝันร้ายสัญญาณบอกปัญหาสุขภาพ เนื่องจากการนอนหลับนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกายจะได้พักผ่อน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และปล่อยวางจากเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญมาทั้งวัน และสิ่งที่เคียงคู่กับการนอนหลับนั่นก็คือ “ความฝัน” หากฝันดีก็จะทำให้ยามตื่นนอนกลายเป็นเช้าที่แสนสดใส แต่ถ้าหากฝันร้ายอาจจะทำให้หลับต่อได้ยากขึ้น และยังสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ฝันร้ายยังสามารถบอกถึงปัญหาสุขภาพจิตของเราอีกได้ด้วย
ฝันร้ายคืออะไร? |
ฝันร้าย (nightmare) เป็นการตอบสนองทางอารมณ์ในเชิงลบ ซึ่งเกิดในภาวะการนอนหลับในระยะ REM (rapid eye movement) เป็นช่วงที่กล้ามเนื้อสมองส่วนทาลามัส และซีรีบรัมที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้า การหลั่งน้ำลาย การหายใจหยุดการทำงานลงชั่วคราว โดยฝันร้ายมักจะมีภาพลักษณ์ที่ซับซ้อน และเป็นเรื่องยาว ผลจากการฝันร้ายจะทำให้เกิดภาวะความกลัวอย่างรุนแรง หรือมีความวิตกกังวล และจากสมาคมจิตแพทย์อเมริกาได้ให้คำจำกัดความและกำหนดการวินิจฉัยว่า ฝันร้ายมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก 10 ขวบขึ้นไป แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ หรือทางสังคมมากนัก แต่หากฝันร้ายเกิดขึ้นบ่อย ๆ กับวัยผู้ใหญ่เป็นเวลานานจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
สาเหตุของฝันร้าย |
- 60 เปอร์เซ็นต์ของสาเหตุของการฝันร้ายมาจากความวิตกกังวล และความเครียด
- การสูญเสียบุคคลที่รัก หรือเกิดความเจ็บปวดที่กระทบกระเทือนกับจิตใจ
- ผลข้างเคียงของยา เช่น การรับประทานยานอนหลับ เป็นต้น
- การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือสูบบุหรี่มากเกินไป
- ความผิดปกติของการหายใจขณะหลับ หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การรับประทานอาหารที่ย่อยยากก่อนเข้านอน เช่น อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เป็นต้น
- มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล เป็นต้น
เคล็ดลับสำหรับการนอนหลับฝันดี |
- กำหนดตารางเวลาของการเข้านอนและตื่นนอน ในเวลาที่กำหนดในแต่ละคืนและลุกขึ้นในเวลาเดียวกันทุกเช้า จะทำให้นาฬิกาชีวิตมั่นคงมากขึ้นและร่างกายจะทำการปรับตัวให้เคยชินกับการพักผ่อนตามเวลา
- การออกกำลังกาย โดยใช้เวลาในการออกกำลังกายวันละ 20 ถึง 30 นาที เนื่องจากการออกกำลังกายทุกวันมักจะช่วยให้ผู้คนนอนหลับ แม้ว่าจากการศึกษาวิจัยบางรายงานบันทึกว่า การออกกำลังกายก่อนนอนอาจมีผลเสีย เพื่อประโยชน์สูงสุดให้ออกกำลังกายประมาณห้าถึงหกชั่วโมงก่อนเข้านอน และรองลงมาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน ซึ่งจะถือเป็นช่วงเวลาที่รบกวนการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพตามลำดับ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีนนิโคตินและแอลกอฮอล์ รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนซึ่งเป็นตัวกระตุ้น แหล่งที่มาของคาเฟอีน ได้แก่ กาแฟ, ช็อคโกแลต, ยาลดความอ้วน, น้ำอัดลม, ชาสมุนไพร, และยาแก้ปวด เป็นต้น
- ทำใจให้สบายและพักผ่อนก่อนนอน การอาบน้ำอุ่นการอ่านหนังสือหรือกิจวัตรการผ่อนคลายอื่น ๆ จะทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
- นอนหลับในพื้นที่ที่โดนแสงแดด เนื่องจากแสงแดดจะช่วยปรับให้นาฬิกาภายในร่างกายรีเซ็ตตัวเองทุกวัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับแนะนำให้รับแสงแดดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงสำหรับผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับ
- อย่านอนบนเตียงในขณะที่ยังไม่หลับหรือตื่นอยู่ หากนอนไม่หลับให้ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น อ่านหนังสือหรือฟังเพลงจนกว่าจะรู้สึกเริ่มง่วงนอน จึงย้ายมานอนที่เตียง
- ควบคุมอุณหภูมิห้อง รักษาอุณหภูมิที่สะดวกสบายในห้องนอน อากาศร้อนจัดหรืออากาศเย็นจัด อาจทำให้การนอนหลับหรือขัดขวางไม่ให้หลับ
- ควรพบแพทย์หากปัญหาการนอนหลับรบกวนการดำเนินชีวิตปกติประจำวัน และมีผลต่อการประกอบอาชีพ เพราะปัญหาการนอนหลับส่วนใหญ่สามารถรักษาได้หากได้รับการรักษาที่ตรงจุด
จากที่กล่าวมานั้นความฝันอาจจะบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ และหากปล่อยเอาไว้อาจจะรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น สุขภาพดีดี.com จึงได้รวบรวมเคล็ดลับสำหรับการนอนหลับฝันดีมาให้ทุกท่าน แต่อย่างไรก็ตามหากทำตาม 8 ข้อดังกล่าวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรเข้าพบแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น