พบผู้ป่วยโรคไต ติดโควิดเสียชีวิต
ยอดโควิด-19 ไทยติดเชื้อใหม่-ป่วยตาย เริ่มพุ่งสูงขึ้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้ยอดผู้ป่วยปอดอักเสบ-ใส่ท่อช่วยหายใจจะค่อยๆเพิ่มแบบช้าๆ จนเห็นชัดในช่วงปลาย เม.ย.-ต้น พ.ค. แต่ไม่เกินคาดการณ์ที่พันกว่าคน ขณะที่ ผอ.กองระบาด กรมควบคุมโรค รับช่วงหยุดสงกรานต์อาจตรวจน้อยส่งผลให้ยอดลดแต่พบผู้ป่วยโรคไตตายเพิ่มขึ้นแม้ฉีดวัคซีนแล้วคาดมาจากไปล้างไตน้อยลง เหตุเจอเงื่อนไขใช้บริการที่ยุ่งยาก จึงเป็นที่มาของความอันตรายที่น่าเป็นห่วงเนื่องจาก พบผู้ป่วยโรคไต ติดโควิดเสียชีวิต มากขึ้นในประเทศไทย
ส่งผลให้เมื่อติดเชื้อแล้วยิ่งอาการหนัก ส่วนการ พบคนไม่ตรวจ ติดเชื้อไม่บอก ไม่กักตัว อาจทำให้ติดเชื้อพุ่งทะลุเกิน 1 แสนคนต่อวัน แนะผู้สูงวัยสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเจอคนอื่นรวมถึง คนในบ้าน ขณะที่คาดไทยมีภูมิคุ้มกันโควิดแค่ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากร ต้องเร่งฉีดเข็มกระตุ้นมากขึ้น
วันที่ 19 เม.ย. นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ต้องรออย่างน้อย 1 สัปดาห์ที่คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิต และเริ่มตรวจมากขึ้นเพราะไปมีความเสี่ยงและมีความกังวล อย่างไรก็ตาม
ส่วนผู้เสียชีวิตขณะนี้สังเกตว่า ผู้ป่วยโรคไตเสียชีวิตมีจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งข้อสมมติฐานหนึ่งคือ ผู้ที่จะไปล้างไตต้องฉีดวัคซีนก่อน หากไม่ฉีดก็ต้องตรวจ ATK ว่าไม่ติดเชื้อ ซึ่งกระบวนการอาจจะยุ่งยากทำให้การไปรับบริการล้างไตน้อยลง แล้วทำให้อาการตนเองหนักขึ้นได้ อีกปัจจัยหนึ่งคือผู้ป่วยไตแม้จะฉีดวัคซีนแล้ว แต่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้น้อย เพราะจากการตรวจสอบกลุ่มผู้เสียชีวิตทั้งที่เป็นโรคไตและไม่เป็นโรคไต พบว่าการฉีดวัคซีนเท่าเท่ากัน คือ ฉีดราว 30% และไม่ฉีดราว 60% จึงอาจต้องหาแอนติบอดีมาฉีดแทนหากติดเชื้อหรือก่อนติดเชื้อ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการป่วยหนัก
“ผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตระลอกนี้แตกต่างจากระลอกที่แล้ว คือเดลตามาถึงปอดอักเสบค่อนข้างหนักเลย แต่ระลอกนี้ส่วนใหญ่ป่วยจากโรคประจำตัวก่อน และพบการติดเชื้อเริ่มมีปอดอักเสบและเสียชีวิต เลยค่อนข้างเร็ว เพราะไปรักษาโรคอื่น พอรู้ติดเชื้อโรคเก่ายังไม่ทันจะดี ติดเชื้อซ้ำเข้าไปก็อาจทำให้เสียชีวิต เราเจอเหตุการณ์อย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ” นพ.จักรรัฐกล่าว
กรณีช่วงสงกรานต์มีตัวเลขการฉีดวัคซีนรายวันน้อยมาก ประมาณ 1-2 หมื่นกว่าโดสต่อวัน ในขณะที่สธ.รณรงค์ให้ลูกหลานกลับบ้านพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีน รพ.สต.ใกล้บ้าน นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ที่ตัวเลขน้อยเนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา รพ.สต.รายงานลงทะเบียนการฉีดวัคซีนเข้าระบบไม่ได้ ตัวเลขฉีดวัคซีนยังมีจำนวนไม่มากนัก
เนื่องจากตัวเลขมาจาก รพ.เป็นหลัก ถ้า รพ.สต.ป้อนข้อมูลทั้งหมด อาจจะได้จำนวนผู้ฉีดวัคซีนเยอะขึ้น เพราะตอนนี้ระบบยังเข้าไม่ได้ 100% ส่วนกรณีผู้สุงอายุไม่ยอมไปฉีดวัคซีนเพราะเดินทางลำบาก ไม่มีคนพาไปฉีดวัคซีนนั้น ลูกหลานกลับบ้านไปก็พบว่าช่วยให้กลุ่มนี้เข้ามาฉีดวัคซีนมากขึ้น
นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ส่วนการสุ่มตรวจดูว่าใครติดเชื้อมากน้อยแค่ไหนในประเทศไทย ปกติจะตรวจจากภูมิคุ้มกัน แต่มีการฉีดวัคซีนด้วย การตรวจภุมิคุ้มกันจึงไม่สามารถบอกได้ แต่มีเทคนิคในการตรวจสอบ ซึ่งมีการดำเนินการอยู่ แต่ข้อมูลยังไม่ออกมาว่าติดไปกี่เปอร์เซ็นต์
เบื้องต้นจากการประเมิณรายชื่อผู้ติดเชื้อในประเทศไทย พบว่าติดเชื้อในประเทศไทยแล้ว 10% จากประชากร 60-70 ล้านคน หากรวมคนฉีดวัคซีนไปด้วย นับในกลุ่มฉีดเข็ม 3 เป็นหลัก ประชากรเรามีภูมิคุ้มกันไม่เยอะมากราวประมาณ 50% แต่ที่ต้องการคือ 80% จึงต้องเร่งบูสต์วัคซีนให้กับประชาชน โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มสูงวัยที่เสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งต้องอาศํยความร่วมมือกันของหน่วยยงานที่เกี่ยวข้อง
สุขภาพดีดี.com อยากให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี และ มีร่างกายแข็งแรง ดังนั้นขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของภาครัฐและเอกชนที่น่าเชื่อถือนะคะ
ที่มาข้อมูล : พบผู้ป่วยโรคไต ตายเพิ่มโควิด แม้ฉีดวัคซีนแล้ว
ผู้ป่วยโควิดโรคไตเสียชีวิตสูง! อาจมาจากการสร้างภูมิคุ้มกันน้อย