ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
เราคงคุ้นเคยกับภาวะน้ำตาลในเลือดสูงของผู้ป่วยเบาหวานกันดี แต่เมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงก็จะต้องมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำในร่างกายด้วยเช่นกัน ที่ทำให้ร่างกายนั้นเสียสมดุล โดยวันนี้ สุขภาพดีดี.com ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ เริ่มต้นกันด้วยทำความรู้จักกันก่อนว่า ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือ (Hypoglycemia) คืออะไร? เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงหรือน้อยเกินอย่างผิดปกติและเป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยพบมากในผู้ป่วยเบาหวานหรือมีความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือด รวมทั้งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ การรับประทานอาหารน้อยกว่าปกติ การออกกำลังกายอย่างหนักจนเกินไป และการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มาก
โดยปกติทั่วไปแล้วเมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จะถือว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยมักมีอาการใจสั่น อ่อนเพลีย และมีเหงื่อออกมาก แต่หากมีอาการรุนแรง อาจทำให้มีอาการสับสน ตอบสนองช้าลง ชัก และหมดสติได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จึงควรสังเกตอาการและรับการรักษาให้ทันท่วงที
สาเหตุของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ |
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมีหลายสาเหตุ มักจะเกิดกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรคเบาหวานหรืออินซูลิน เพราะหากใช้ซูลินมากเกินไปก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงต่ำมาก นอกจากนั้น หากน้ำตาลที่อยู่ในร่างกายถูกใช้หมดเร็วจนเกินไป น้ำตาลถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดช้าเกินไป หรือมีปริมาณอินซูลินในกระแสเลือดมากเกินไป ก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงได้เช่นกัน รวมไปถึงปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่
- รับประทานอาหารปริมาณน้อยกว่าปกติหรือไม่เพียงพอ หรืองดมื้ออาหาร ทำให้ร่างกายไม่มีอาหารเพื่อนำไปแปลเปลี่ยนเป็นพลังงาน
- รับประทานอาหาร รวมไปถึงปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารที่ทำให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลต่ำลง
- รับประทานยารักษาเบาหวานที่ไม่เหมาะสมทั้งชนิดของยา ขนาดยาที่มากเกินไป และเวลาในการรับประทานยา
- มีการใช้กลูโคส (Glucose Utilization) เพิ่มขึ้น เช่น ออกกำลังกายมากขึ้น เป็นต้น
- มีการผลิตกลูโคสที่ตับน้อยลง เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นโรคตับแข็ง
การรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ |
การรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มีจุดมุ่งหมายคือ การเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นจนกลับมาสู่ภาวะปกติ และทำให้ระบบต่างๆในร่างกายนั้นทำงานปกติ การรักษาด้วยตนเองในเบื้องต้นจะขึ้นอยู่กับอาการ หากมีอาการระยะเริ่มต้นมักจะรักษาได้ด้วยการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวปริมาณ 15-20 กรัม โดยอาจเลือกรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งต่อไปนี้
- ทอฟฟี่ 3 เม็ด
- น้ำส้มคั้น 180 มิลลิลิตร
- น้ำผึ้ง 3 ช้อนชา
- ขนมปัง 1 แผ่น
- ไอศกรีม 2 สกูป
- กล้วย 1 ผล
อย่างไรก็ตามผู้ป่วย ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนหรือไขมัน เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้า หลังจากนั้น 15 นาที ให้ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด หากระดับน้ำตาลในเลือดยังต่ำกว่า 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำยังไม่ดีขึ้น ให้บริโภคคาร์โบไฮเดรตเพิ่มอีก 15-20 กรัม และให้ตรวจสอบซ้ำอีกครั้งในอีก 15 นาที และให้ปฏิบัติซ้ำตามวิธีข้างต้นจนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงกว่า 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรหรือมีอาการดีขึ้น
การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ |
การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ได้แก่
- ปฏิบัติตามแผนการรักษาตามที่แพทย์ได้แนะนำไว้อย่างระมัดระวัง ทั้งการรับประทานยา การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย
- ตรวจสอบปริมาณยารักษาเบาหวานและอินซูลินอย่างรอบคอบ
- หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างระมัดระวัง
- หมั่นตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เสมอตามที่แพทย์แนะนำ
- พกสายรัดข้อหรือบัตรประจำตัวที่บ่งบอกว่าเป็นโรคเบาหวาน