สาหร่ายเกลียวทอง ต้านมะเร็ง
ทุกท่านคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าสาหร่ายเกลียวทอง เป็นอาหารแห่งอนาคตที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลากหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบสมดุลในร่างกาย ระบบย่อยอาหาร และสามารถลดกรดไหลย้อนได้อีกด้วย แต่เท่านั้นยังไม่พอ รู้หรือไม่ว่า สาหร่ายเกลียวทอง ต้านมะเร็ง ได้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามมาเริ่มทำความรู้จักกับสาหร่ายเกลียวทองกันก่อนค่ะ
สาหร่ายเกลียวทอง หรือ Spirulina คืออาหารดั้งเดิมของบางชนเผ่าในประเทศเม๊กซิโกและทวีปแอฟฟริกา เป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินที่พบในน้ำอุ่นที่มีความเป็นด่างสูงในทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ
สาหร่ายเกลียวทอง ในธรรมชาติเป็นอาหารของฝูงนกฟลามิงโกที่อาศัยอยู่แถบ Rift Valley Lakes ในแอฟฟริกาตะวันออก ซึ่งทำให้ร่างกายของนกเหล่านี้เจริญเติบโตได้อย่างน่าอัศจรรย์เมื่อเทียบกับสาหร่ายชนิดอื่นเนื่องจากสาหร่ายเกลียวทอง
มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมากคือมี Amino acid อยู่ถึง 62% ทั้งยังเป็นแหล่งที่มีวิตามิน B-12 ตามธรรมชาติมากที่สุดในโลก และยังมีส่วนประกอบตามธรรมชาติอย่างครบถ้วนของ Carotene และ Xanthophyll phytopigment หลายชนิดสาหร่ายเกลียวทองมีผนังเซลล์ที่อ่อนนุ่มจากสารประกอบเชิงซ้อนของน้ำตาลและโปรตีน ซึ่งถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย แตกต่างจากสาหร่ายทั่วๆ ไป
ทั่วโลกได้มีความพยายามที่จะหาสารอาหารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างระบบภูมิคุ้มกันหรือยับยั้งการเกิดมะเร็ง ซึ่งมุ่งไปที่ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ทั้งนี้เป็นเพราะในสาหร่ายกลุ่มดังกล่าว เช่น สาหร่ายเกลียวทองสไปรูลิน่า มีสารโปรตีนสีน้ำเงินอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นคือ “ไฟโคไซยานิน”
สารไฟโคไซยานิน พบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) และช่วยป้องกันเซลล์สมองไม่ให้ถูกทำลาย (neuroprotective) ได้ ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการสกัดไฟโคไซยานินจากสาหร่ายมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ ภาวะแก่ก่อนวัย โดยหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการอักเสบต่างๆ ของร่างกายโดยการสกัดไฟโคไซยานิน
งานศึกษาวิจัยในหนูทดลอง |
งานวิจัยของญี่ปุ่นได้มีการสกัดสารไฟโคไซยานิน แล้วนำไปให้หนูทดลองที่เป็นโรคมะเร็งตับกิน พบว่ากลุ่มที่ได้รับสาหร่ายเกลียวทอง(สไปรูลิน่า) มีอัตรารอดสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับสาหร่ายเกลียวทอง
ในการทดลอง 5 อาทิตย์ กลุ่มที่ได้รับสาหร่ายเกลียวทองมีอัตราการรอด 90% ในขณะที่กลุ่ม ควบคุมรอดเพียง 25% และหลังจาก 8 อาทิตย์กลุ่มที่รับสาหร่ายเกลียวทอง ยังเหลือรอดถึง 25% ในขณะที่กลุ่มควบคุมตายหมดแสดงให้เห็นว่าไฟโคไซยานิน น่าจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดของหนูทดลองที่เป็นโรคมะเร็ง
เท่านั้นยังไม่พอได้มีการทดลองตรวจหาเม็ดเลือดขาว หรือลิมโฟไซด์ (Lymphocyte) ในเลือดหนูพบว่าหลังจากรับสาหร่ายเกลียวทองไป 2 อาทิตย์ ปริมาณลิมโฟไซด์ในเลือดของกลุ่มที่ได้รับสาหร่ายเกลียวทอง จะมากกว่ากลุ่มควบคุมและเท่ากับ หรือมากกว่ากลุ่มหนูปกติที่ไม่เป็นโรค
ผลการทดลองข้างต้นทำให้สามารถสรุปได้ว่า ไฟโคไซยานินในสาหร่ายเกลียวทอง ไม่เพียงแต่จะทำลายเซลล์มะเร็งเท่านั้น แต่ได้ช่วยทำให้ความต้านทานของร่างกายดีขึ้น,อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคเสื่อมโทรมของอวัยวะโดยเพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันโดยทั่วไป โดยทำงานผ่านทาง ระบบน้ำเหลือง (หน้าที่โดยทั่วไปของระบบน้ำเหลืองคือ บำรุงรักษาอวัยวะภายในร่างกาย, ป้องกันโรคมะเร็ง, โรคแผลเปื่อย, การตกเลือด, และโรคอื่น ๆ)
งานศึกษาวิจัยในมนุษย์ |
งานศึกษาวิจัยจำนวนมากแสดงว่าสาหร่ายเกลียวทอง หรือสารสกัดจากสาหร่ายเกลียวทองสามารถป้องกัน หรือยับยั้งมะเร็ง ในมนุษย์และสัตว์ มีความเชื่อว่ามะเร็งบางชนิดเป็นผลมาจากเซลล์ที่ DNA ถูกทำลายแล้วไปทำร้ายเซลล์อื่นๆ ทำให้ไม่สามารถควบคุมการเจริญของเซลล์ได้
นักชีววิทยาด้านเซลล์ได้ค้นพบว่ามีเอนไซม์ชื่อ Endonuclease มีหน้าที่ซ่อมแซม DNA เพื่อให้เซลล์คงมีชีวิตอยู่และมีความแข็งแรง เมื่อเอนไซม์ตัวนี้ถูกยับยั้งการทำงานโดยการฉายรังสี หรือถูกพิษ DNA ที่เสียหายจึงไม่ได้รับการซ่อมแซมและทำให้อาจเกิดเป็นมะเร็งขึ้นได้
จากผลการศึกษาในห้องทดลองพบว่า Polysaccharide ของสาหร่ายเกลียวทองเท่านั้นที่ช่วยให้การซ่อมแซม DNA ของเอนไซม์ตัวนี้ทำได้ดียิ่งขึ้น นี่คงเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าเหตุใดงานวิจัยหลายชิ้นในผู้ที่สูบบุหรี่และการทดลองเกี่ยวกับมะเร็งในสัตว์ทดลอง จึงรายงานผลว่าเมื่อกลุ่มตัวอย่างได้รับประทานสาหร่ายเกลียวทอง หรือรักษาด้วยสารสกัดจากสาหร่ายเกลียวทอง จึงสามารถหยุดยั้งเซลล์มะเร็งที่ร้ายแรงหลายชนิดได้ในระดับสูง
การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สาหร่ายเกลียวทองเป็นสารบำรุงระบบภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ การศึกษาวิจัยในหนู หนูแฮมสเตอร์ ไก่ ไก่งวง แมว และปลา ยืนยันว่าสาหร่ายเกลียวทองช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า สาหร่ายเกลียวทองไม่เพียงแต่กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเพิ่มขีดความสามารถของร่างกายในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดให้เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้แก่ Stem cells ในไขกระดูก เซลล์เม็ดเลือดขาว T-cellsและ Natural Killer Cell แสดงให้เห็นว่ามีการทำงานได้ดียิ่งขึ้น ม้ามและต่อมไธมัสมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น นักวิทยาศาสตร์ยังสังเกตพบว่า สาหร่ายเกลียวทองช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาว ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทำลายเชื้อโรค
การศึกษาทดลองบริโภคสาหร่ายเกลียวทองพบว่าแม้จะบริโภคเพียงจำนวนน้อยก็ยังเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ของเหลว และเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถป้องกันตนเองจากเชื้อโรคที่แปลกปลอมเข้ามาได้ดียิ่งขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ได้แก่ T-cells เม็ดเลือดขาว B-cells และเซลล์ต้านมะเร็ง เซลล์เหล่านี้ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดและมีมากในอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ม้าม ต่อมไธมัส ต่อมน้ำเหลือง ต่ออะดีนอยด์ ต่อมทอนซิล และไขกระดูก สาหร่ายเกลียวทองช่วยจัดระเบียบให้เซลล์และอวัยวะที่สำคัญเหล่านี้ ทำให้สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น แม้ในสภาวะกดดันจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษหรือจากการติดเชื้อต่างๆ
บทสรุป |
จากผลการศึกษาวิจัยเบื้องต้น นักวิทยาศาสตร์หวังว่าการใช้สาหร่ายเกลียวทอง และสารสกัดจากสาหร่ายเกลียวทอง มีส่วนช่วยในการลดหรือป้องกันมะเร็งและโรคต่างๆ ที่เกิดจากไวรัส ป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือปรสิต และอาจทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น และแผลหายได้เร็วขึ้น ความรุนแรงของโรคโลหิตจาง, การได้รับสารพิษ และภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจลดน้อยลง
นักวิทยาศาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน รัสเซีย อินเดีย และประเทศอื่นๆ ต่างกำลังศึกษาอาหารที่มีคุณค่าโดดเด่นนี้เพื่อไขปริศนาเกี่ยวกับศักยภาพของสาหร่ายเกลียวทอง ยังคงต้องมีการวิจัย เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของมันต่อโรคเอดส์และโรคร้ายที่คร่าชีวิตอื่นๆ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า สาหร่ายเกลียวทองเป็นอาหารธรรมชาติที่ปลอดภัย และให้คุณค่าโภชนาการที่เข้มข้นเพื่อดำรงชีวิตและสุขภาพที่ดีเลิศ
ที่มาข้อมูล : สาหร่ายเกลียวทองกับระบบภูมิคุ้มกัน