วิธีแก้อาการหลงลืม
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่มีอาการหลงๆ ลืมๆ อยู่เป็นประจำ หรือแม้กระทั่งในบางครั้งอาการหลงลืมที่เกิดขึ้นกับคนเราบ่อยๆ แม้อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดกับทุกคนได้ แต่ในบางครั้งอาการหลงลืมนั้นอาจไม่ใช่เพียงแค่อาการหลงลืมปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน แต่เป็นอาการที่เป็นผลมาจากภาวะสมองเสื่อม หรือความผิดปกติของสมอง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อตัวคนๆ นั้นและคนรอบข้าง รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันทั้งระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย วันนี้ สุขภาพดีดี.com มีคำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีแก้อาการหลงลืม ดีๆมาให้ทุกคนค่ะ
สาเหตุของอาการขี้ลืม |
1.การนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
ถ้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน หรือนอนหลับน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายและสมองทำงานหนัก จึงเกิดความเหนื่อยล้าสะสมเป็นเวลานาน ทำให้ไม่มีสมาธิ กระวนกระวาย และหงุดหงิดง่าย ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการขี้ลืมได้ และถ้าหากไม่ได้พักผ่อนหลายวันอาจจะทำให้ร่างกายมีความผิดปกติในระยะสั้นและระยะยาว ควรพบแพทย์เพื่อตรวจ และรับคำปรึกษาปัญหาด้านการนอนหลับ เพื่อรักษาให้ถูกต้องต่อไป
2. ร่างกายอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจนเกินไป
ต่อเนื่องจากข้อที่ 1 ถึงแม้ว่าเราจะนอนครบ 7-8 ชั่วโมงตามที่แพทย์แนะนำ แล้วแต่ก็ยังมีอาการง่วง ซึม และหลงๆลืมๆอยู่ อาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายของเรานั้นเหนื่อย และล้าจนเกินไป และสมองถูกใช้งานหนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาทและสมอง ส่งผลต่อความจำและสมองทำให้ขี้ลืมนั่นเอง
3.ทำกิจกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนิยมในเรื่องของการทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หรือ multitask แต่อย่างไรก็ตาม การทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันอาจทำให้เราหลุดโฟกัสจากการทำกิจกรรมนั้นๆ เนื่องจากจะต้องสนใจกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งตามปกติแล้วคนเราอาจทำได้หลายอย่างพร้อมกันก็จริงแต่จริงๆแล้วสมองเราจดจ่ออะไรได้แค่อย่างเดียว การทำหลายอย่างพร้อมกันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเบลอ และหลงๆลืมๆได้นี่เอง
4.ดื่มเหล้าเบียร์หรือแอลกอฮอล์มากไป
เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป หรือดื่มเป็นประจำทุกวัน จะส่งผลให้ระบบประสาทและสมองได้รับผลกระทบ กล่าวคือสมองในส่วนของ ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำและการทำงานของสมอง ถ้าหากได้รับการดูดซึมแอลกอฮอล์มากเกินไปจะทำให้เกิดการเสื่อมของส่วนของสมอง และเกิดอาการหลงๆลืมๆ ทำให้บางคนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลานั้น
5.ความกังวลอาจทำให้หลงลืมได้
ความกังวล หรืออารมณ์เศร้า เป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อความทรงจำเช่นกัน เนื่องจากเมื่อเราตกอยู่ในสภาวะเหล่านี้จะทำให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทมากกว่าปกติ มีผลให้เกิดปัญหาด้านความจำ นอกจากนี้ยังเสี่ยงอาการนอนไม่หลับอีกด้วย
6.การรับประทานยาบางชนิด
ยกตัวอย่างเช่น ยาในกลุ่มแอนตี้โคลิเนอร์จิก (Anticholinergic) ยากลุ่มนี้จะเข้าไปขัดการทำงานของสารสื่อประสาทด้านความจำ สามารถพบได้ในยารักษายาระงับประสาท,ยาลดไขมันในเลือด,โรคภูมิแพ้,โรคประสาท,โรคฉี่ไม่สะดวก,โรคหัวใจและโรคความดันโลหิต เป็นต้น
7.โรคประจำตัว
ยกตัวอย่างเช่น ไทรอยด์,ความดันโลหิตสูง,ตับและไต,เบาหวาน เป็นต้น เนื่องจากโรคเหล่านี้มีผลต่อการส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ไขมันในเลือดที่สูงจะส่งผลให้สมองทำงานผิดปกติ และสามารถส่งผลต่อความทรงจำ นอกจากนี้การรักษาโรคด้วยยาบางชนิดยังมีผลข้างเคียงกับการทำงานของสมอง
ตัวอย่างเคล็ดลับการดูแลรักษาสุขภาพสมอง |
1.พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างต่ำ ในสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อน ไม่มีเสียงดัง ไม่มีแสงจ้า เพื่อให้คุณภาพการนอนนั้นดีที่สุด
2.หากิจกรรมฝึกสมอง โดยการเล่นเกมที่เกี่ยวข้องกับความจำและตัวเลข
3.ทำกิจรรมต่างๆที่ขัดจากธรรมชาติของเรา เพื่อให้สมองได้จดจำอะไรใหม่ๆ เช่น เคยกินข้าวด้วยมือขวาให้เปลี่ยนมากินด้วยมือซ้าย เปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน เป็นต้น
4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยการออกกำลังกายที่ช่วยเรื่องสมองจะต้องเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค หัวใจต้องเต้นเร็วขึ้น วันละ 20-30 นาที อย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์
5.หลีกเลี่ยงความเครียด และพยายามฝึกให้ตนเองนั้นสามารถรับมือกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการป้องกันอาการหลงลืม |
1.จดบันทึก เพราะการจดจะช่วยย้ำให้สมองจำเรื่องราวต่างๆที่คุณบันทึกลงไป ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกเรื่องเล็กๆน้อยๆ หรือสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน หรือจดที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนและบุคคลสำคัญ เนื่องจากการฝึกจดบันทึกให้เป็นนิสัยก็จะช่วยแก้นิสัยนิสัยขี้ลืมได้อย่างดีเลยค่ะ
2.เขียนโน้ต การแปะกระดาษโน้ตไว้ในที่ที่คุณมองเห็นง่ายๆ หรือเดินผ่านประจำ จะช่วยเตือนสมองของคุณให้จดจำเรื่องที่คุณจะต้องทำได้แม่นยำขึ้น
3.จัดลำดับความสำคัญ เมื่อคุณมีการแยกเรื่องต่างๆ ออกเป็นหัวข้อ มีรายละเอียด มีแผนผัง ก็จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของสิ่งที่คุณจะต้องทำ และจัดความสำคัญได้ง่ายขึ้น
4.ทำกิจกรรมต่างๆทีละอย่าง การทำกิจกรรมต่างๆทีละอย่างจะทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น และจะป้องกันไม่ให้หลงๆลืมๆได้มากขึ้นอีกด้วย
5.จัดระเบียบการเก็บข้าวของให้เป็นที่ การเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เป็นที่ เป็นหมวดหมู่ สามารถทำให้เราแยกแยะความคิดได้รวดเร็วเวลาที่ต้องนึกว่าของสิ่งนี้อยู่ตรงไหน
6.บริหารสมอง ควรแบ่งเวลามาทำกิจกรรมที่แตกต่างบ้าง เช่น ออกกำลังกาย เล่นดนตรี ร้องเพลง เพื่อบริหารสมองของคุณให้มีความตื่นตัวเพิ่มความคิดที่รวดเร็วฉับไวขึ้น
7.ทำอะไรให้ช้าลง ทำให้ช้าลงหน่อย ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ และใส่ใจในรายละเอียดของแต่ละสิ่งที่ทำมากขึ้น สมองของคุณก็จะจดจำเรื่องราวต่างๆได้มากขึ้น
8.ทานอาหารหรือวิตามินที่ช่วยบำรุงสมองและความจำ วิตามินหรืออาหารเสริมก็อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่มีอาการขี้หลงขี้ลืม เช่น วิตามิน B รวมที่ช่วยเรื่องของระบบประสาทและสมอง
สุขภาพดีดี.com แนะนำให้ทุกท่านลองทำวิธีดังกล่าวที่ได้กล่าวไปข้างต้น เพื่อบริหารสมอง ป้องกันไม่ให้เกิดอาการหลงๆลืมๆ หรือรับประทานอาหารหรืออาหารเสริม ที่บำรุงสมอง วันนี้ สุขภาพดีดี.com มีผลิตภัณฑ์ดีๆมานำเสนอค่ะ คือB-Complex plus Bioflavonoid ตรา Maxxlife ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน บำรุงสมองและระบบประสาท บำรุงระบบไหลเวียนและคุณภาพของเลือด ซึ่งจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการจดจำ ป้องกันไม่ให้เราหลงๆลืมๆง่ายอีกด้วย