ลูกไม่กินผัก ทำยังไงดี
ในแหล่งการศึกษาหนึ่ง พบว่า เด็กที่ไม่กินผักนั้น
เป็นเพราะมีจุด หรือ ต่อมรับรสขม ที่บริเวณลิ้นได้ดีกว่า ผู้ใหญ่หลายเท่า
ทำให้เด็กไม่ชื่นชอบ ทั้ง รสชาติ กลิ่น ของผักทุกชนิด ทั้งใบเขียว และ สีอื่นๆ
เมื่อมีรสชาติ กลิ่น ที่ใกล้เคียงกัน พาให้เด็กที่ได้กลิ่นที่มีความคล้ายกัน
กลายเป็นปฏิเสธไปซะทั้งหมด
ก่อนจะไปพูดเรื่องสาเหตุทั้งหมด ของสาเหตุ ที่ทำให้เด็กปฏิเสธ หรือ ไม่กินผักนั้น มาดูกันก่อนว่า เด็กกินผักแล้ว ขมกว่าผู้ใหญ่จริงรึเปล่า
เพราะการรับรสขม ของต่อมที่ทำงานรับรสนั้น ในช่วงวัยเด็กของคนเรานั้น มีต่อมรับรสขม เน้นว่า รสขม โดยเฉพาะ มีมากกว่า 10000 จุด ยิ่งเยอะเท่าไหร่ ความเข้มข้น ในการรับรส ยิ่งเยอะมากขึ้น เป็นเงาตามตัว ตามจำนวนเม็ดรับ
แล้วกลับมาถามว่า งั้นทำไม ผู้ใหญ่ ถึงกินผักได้ง่ายกว่า หรือ คอยแต่บอกว่ารสของผักนั้น ไม่ได้ขม แบบที่เด็กคิด
เหตุเพราะว่า เมื่อคุณโตขึ้นมาแล้ว ต่อมรับรสที่พูดถึงของเด็ก กว่า 10000 จุด ในข้างต้นนั้น ในระดับของผู้ใหญ่ ต่อมจะลดลง เหลือเพียง 2000-4000 จุด สังเกตได้ว่า ลดลงมากกว่า 50% ด้วยซ้ำ และ ให้คุณลองจินตนาการว่า ผักอะไรที่ขมที่สุด ในช่วงชีวิตของการเป็นผู้ใหญ่ ให้คิดบวก ความขมเข้าไปอีก 50% หรือ ขม อีกเท่านึงของที่คุณกิน และนั่น คือสิ่งที่เด็ก รับรู้ เมื่อเขากินผักเข้าไป
ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมเด็กถึงได้รังเกียจ รังชัง การกินผักอะไร ขนาดนั้น บางครั้ง ก็ต้องโดนบังคับให้กิน ยิ่งเป็นปมในใจ ไม่อยากกินเข้าไปใหญ่ และ กลายเป็นคนต่อต้าน การกินผัก อาหารชนิดไหนใส่ผัก
คือไม่เปิดใจกินเลย แม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และนั่น ไม่เกี่ยวกับ เรื่องของต่อมการรับรสอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของปมในใจ ที่ติดมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก
กลับมาดูที่ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เด็กไม่กินผักกันบ้าง
1.การเลียนแบบ
บางครั้งพ่อแม่เองก็เป็นแบบให้ลูกๆ พยายามให้ลูกๆ กินผัก แต่ตัวเองก็ไม่เป็นผู้นำการทานผักให้ลุกดู ยิ่งทำให้ลูกแหยงเข้าไปใหญ่ เพราะขนาดพ่อแม่ยังไม่กิน แล้ว มีหรือลูกจะกิน?
2.ไม่ชอบกิน เพราะถูกบังคับ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น การบังคับ หรือ อยากให้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่อยากทำ มากเกินไป ย่อมทำให้เกิดความไม่ถูกใจ เป็นเรื่องธรรมดา การกินผักก็เช่นกัน
3.ลูกไม่กินผัก เพราะตามใจมากเกินไป
ไม่มีอะไร 100% ทุกอย่างควรมีความสมดุล หากคุณตามใจมากเกินไป ไม่เคยฝึก หรือ ให้ลูกทดลอง การกินผัก กินไกลเข้าไปอีก การจะหวังให้มากินตอนโต ยิ่งเป็นไปได้ยากมาก ไม่เคยกินของไม่อร่อยมาก่อน มีเหรอ จะยอมกินเข้าไป
4.ไม่มีลุกเล่นในการปรับ
ใส่ผักมาแบบโต้งๆ ให้ลูกเห็นชัดเจน และ จำลักษณะได้ว่าชิ้นนี้คืออะไร คือผักที่เขาไม่ชอบใช่รึเปล่า และยิ่งไปกว่า เรื่องของการไม่กินผัก จะพาลไม่กินอาหารที่ใส่อยู่ในผักไปด้วย ไม่ได้ขาดแค่สารอาหารจากผักละนะ ขาดทุกชนิดไปเลย
หลายคนอาจจะมองว่า แค่ไม่กินผัก นี่เป็นปัญหาเล็กน้อยที่แก้เมื่อไหร่ได้ ลืมอะไรไปรึเปล่า? ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ไม่ควรมีปัญหาใดเป็นเป็นหา เล็ก น้อย เรื่องกินผักก็เช่นกัน
จากข้อมูลสถิติล่าสุดพบว่า ในจำนวนเด็กทั้งหมด คนที่สามารถกินได้ หรือพอกินได้ มีอยู่เพียง 6.8 % หรือ จาก 100% นั่นละ ดูแลไม่เยอะเลยใช่ไหม ประเมินสภาพการณ์ จากเด็กทั้งหมด
มีเด็กเพียง 300,000 คน จากทั้งหมด ที่ทานผักพอได้ และกลุ่มที่มีปัญหาในเรื่องนี้มากที่สุด อยู่ในช่วงอายุ 6-14 ปี นั่นเป็นช่วงพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ค่อนข้างสำคัญ และ
ประเภทไทย ต้องแบกรับปัญหาสุขภาพ ในแต่ละปีของคนในประเทศ ที่มีผลพวงมาจากเรื่องการไม่กินผักกว่าร้อยละ 19 นั่นไม่น้อยเลย
เพราะนี่คือการเกิดปัญหาสุขภาพที่มาจากการไม่กินผักเพียงอย่างเดียว เกือบ 1 ใน 5 ส่วนของประชากร สมควรเป็นวาระ ที่ต้องรับการดูแลอย่างทันที
ได้อ่านเนื้อหาของปัญหาที่เกิด จากการไม่ทานผักไปแล้ว จะทำอย่างไรดี ที่จะพอทำให้ลูกกินผัก
1.เป็นตัวอย่างด้วยตนเอง
การที่อยากให้ลูกทำอะไร ควรพิสูจน์ได้ว่า สิ่งนั้นทำแล้วดี เป็นตัวอย่างให้ลูกในการกินผักได้เลย เพื่อให้ลูกมั่นในได้ว่า สิ่งนั้นดีจริงๆ
2.ใช้สื่อ เป็นสิ่งช่วยสอน
เนื่องจากในปัจจุบัน มีสื่อหลากหลาย ในการแนะนำ หรือชวนให้ลูกกินผัก หลายสื่อเป็นสื่อที่ดี และ สนุก เหมาะกับการสอนให้กินผัก
3.ใช้อิทธิพลของเพื่อนๆ
โปรดอย่ามองข้าม กลุ่มสังคมของเด็ก หรือคนที่เด็ก หรือ ลูกๆ สนิท ให้พวกเขาช่วยได้ โดยวิธีการนำเสนอการกินผัก กินแล้วดีอย่างไร
4.ซ่อนรสชาติ
โดยหลักการเมื่อการกินผัก เป็นชิ้นใหญ่ อาจจะทำได้ยากกว่า การกินแบบชิ้นเล็กน้อย ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ทำให้มันเล็กที่สุด เหม็นน้อยสุด ขมน้อยสุด ผสมลงไปในอาหารอย่างอื่น เพื่อให้ทานง่ายขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่น่าสนใจ
5.ให้กินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผัก รสชาติอร่อย
Veggie Gummy เน้นประโยชน์ที่ได้รับจากผักสดตามธรรมชาติ สำหรับเด็กที่ไม่ค่อยทานผักสด การทาน Veggie Gummy ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรับประทานผัก
หรือเป็นขนมทานเล่นสำหรับเด็กที่มีประโยชน์อร่อยและได้สารอาหารพร้อมวิตามินซี
Veggie Gummy เป็นอีกทางเลือกของการบริโภคที่เน้นประโยชน์และความอร่อย เพราะ Veggie Gummy ได้คัดสรรผักสดๆจากโครงการหลวง
ที่ปลูกด้วยกรรมวิถีที่ควบคุมการเพาะปลูกด้วยทีมงานจากโครงการหลวงคัดสรรแต่ผักที่สดและได้มาตรฐาน ผ่านการคิดค้นและพัฒนาเครื่องจักรมาเพื่อทำการแรรูปผักสดมาเป็นผงแห้ง
โดยที่ยังคงคุณค่าของสารอาหารของผักสดไว้ได้กว่า 80-90% โดยทุกชิ้นของ Veggie Gummy มีผักอยู่ถึง 375 มก.
Veggie Gummy ช่วยในเรื่อง
- เพิ่มภูมิต้านทาน กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
- ช่วยกระดูก และ ฟันแข็งแรง
- ช่วยในระบบขับถ่าย
- ช่วยร่างกายสามารถต้านเชื้อโรคได้
- ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย
- บำรุงระบบประสาทและสมอง