ความดันสูง 215 !! รีวิวประสบการณ์ กระอักเลือด

  • Last modified on:4 ปี ago
  • Reading Time:2Minutes
  • Post Words:16Words
  • PostView Count:224Views

ความดันสูง 215 !! รีวิวประสบการณ์ กระอักเลือด

เมื่อหลายคืนก่อน ผู้เขียนมีอาการ เลือดกำเดา ซึ่งมีอาการที่รุนแรงมาก

ในระหว่างวัน เราเริ่มรู้สึก ได้กลิ่นคาวเลือดในช่องปาก และ มีอาการปวดหัว

เล็กน้อย ด้วยความชะล่าใจ ก็นึกเอาเองว่า เป็นอาการปวดหัวใจ

 

การโดนฝน ในช่วงเช้า และ ที่ได้กลิ่นเลือด ก็เข้าใจไปเอง (อีกเช่นกัน) ว่า น่าจะเป็น

เลือดที่ซึมออกในช่องปาก เล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อ ตกเย็น อาการปวดหัวกลับมาอีกครั้ง

พร้อม กับ กลิ่นเลือด ที่รุนแรงขึ้น และ รู้สึกเหมือน มี ของเหลวบางอย่างไหล ลงผ่านคอ ลงท้องไป

 

เวลาประมาณ 4 ทุ่ม หลังดูละคร เรื่องโปรดจบ ก็เป็นช่วงที่ผู้เขียน เริ่ม เช็ดเครื่องสำอาง

อยู่หน้ากระจก ที่โต๊ะเครื่องแป้ง โดยไม่ทันตั้งตัว เลือด จำนวนมาก พุ่งออก ทั้งทางปาก และ จมูก

อย่างรุนแรงและมากมาย เราพยายามซับเลือดด้วยกระดาษทิชชู จน หมดบ้าน

เลือดก็ยังไม่หยุด ใช่น้ำแข็งประคบ ก็ไม่ช่วยอะไรเลย

 

สามีจึงตัดสินใจ พาไป รพ. ระหว่างทาง ก็ต้องซับเลือดไปด้วย

หลังจาก ไปถึง รพ. แล้วทีมแพทย์ห้องฉุกเฉิน ใช่เวลา เกือบ 2 ชม

และสุดท้าย เลือดกำเดา ได้ด้วย ยาระงับการแข็งตัวของเลือด พร้อมกับ อัตราความดัน บนที่สูงถึง 215

คุณหมอสรุป อาการเลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง

มีสาเหตุจาก ความดันโลหิต สูง คุณหมอได้ ให้ทานยาลดความดัน ในทันที และ สั่งจ่าย มาทานต่อเนื่อง อีก 1 เดือน

หลังจาก ทาน ยาลดความดัน อาการปวดหัว หาย ไป แต่ได้อาการปวดตัว ปวดหลัง เท้าบวม มาทดแทน

ซึ่ง ทรมาน มากกว่า อาการ จาก ความดันสูง หลายเท่าตัว

 

ผู้เขียนกลับไป พบแพทย์ผู้รักษา ได้รับคำตอบ ที่กลายเป็น จุดเปลี่ยน ชีวิต

ในมุมของสุขภาพอีกครั้ง คือ ร่างกายของเรา ไม่สามารถทนทาน ต่อผลข้างเคียงของ

ยาลดความดันโลหิตสูงได้ นั้นหมายความว่า หาก ผู้เขียนต้องใช้ยาเพื่อลดความดัน

ผู้เขียนก็จะต้อง ทรมานกับการปวดตัว และ อาการบวมน้ำ ไปตลอด แต่หาก เลือกที่จะไม่ใช้ยา

ก็จะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะ เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก (อัมพาต นอนติดเตียง) แล้วจะทำอย่างไร

 

ความดันสูง

 

วิธีการดูแล ตัวเอง สำหรับ คนแบบเรา

  • วัดความดันด้วยตัวเอง ทุกเช้าเพื่อประเมินความจำเป็นในการทานยา ของวันนั้น

(เราใช้เครื่องวัดความดันของ Tanita เพราะใช่งานง่ายกดแค่ปุ่มเดียวไม่ยุ่งยากเลยทำได้ด้วยตัวเอง

และได้มาตรฐาน เชื่อมั่นได้ใน ผลที่ได้รับ)

 

  • ลดโซเดียม ไม่ให้เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน คิดง่ายๆ งดของเค็มๆ ทั้งหมด ง่ายที่สุด

 

  • ออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาที (ผู้เขียนเลือก โยคะค่ะ เปิด Youtube เลือก แบบที่เราทำตามได้ง่ายๆ ทำต่อเนื่อง 30 นาที)

 

  • ลดน้ำหนัก อย่างจริงจัง (จาก ข้อ 2 และ ข้อ 3) ทำให้ น้ำหนัก ลดหลังจากนี้ แน่นอน

 

  • ทาน แร่ธาตุ แมกนีเซียม เพราะ แมกนีเซียม จะช่วย ขยายหลอดเลือดทำให้ความดันลดลงได้

(ทำงานเหมือนยาลดความดันแต่ไม่มีผลข้างเคียง อะไรเลยแถมยังทำให้หลับสบายอีกด้วยค่ะ)

แนะนำ เลือกแบบ ที่เป็น แร่ธาตุ อะมิโนแอซิคคีเลต จะทำให้ดูดซึมได้ดี ได้ผลรวดเร็ว ทันทีที่ทานเลยค่ะ คืนที่ทาน หลับสบายจริงๆ

 

  • นอนหลับ ไม่น้อยกว่า 8-9 ชม ต่อวัน

 

จากการตั้งใจ ทำ เพียง 1 สัปดาห์ จากความดัน 215 ผลการวัด ในตอนเช้าก่อนที่เขียนบทความนี้คือ

129/88 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ เราพอใจมาก และ หากทำได้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ

ไม่ต้องทานยา ให้ทรมานปวดตัว ปวดหลัง ปวดไปทั้งตัวอีกต่อไปค่ะ

สุขภาพไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง

ความดันสูง

แคลเซี่ยมผสมแมกนีเซี่ยม ช่วยบำรุงกระดูก ร่างกายไม่สามารถนำแคลเซียมไปใช้งานได้

ถ้าขาดตัวช่วยที่ดีอย่างแมกนีเซียม มีผลการวิจัยว่าถ้ามีการรับประทานแมกนีเซียมควบคู่กับแคลเซียมแล้ว

จะช่วยเพิ่มมวลกระดูกและลดอัตราการเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกแตก และฟันพุลงได้อย่างมาก

การรับประทานแคลเซียมที่อยู่ในรูปของ “อะมิโนแอซิดคีเลต”

จะช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าแคลเซียมคาร์บอเนตถึง 76% เช่นเดียวกันกับ

แมกนีเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต ที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้มากกว่าแมกนีเซียมออกไซด์ถึง

400% ทำไมต้องเป็น แคลเซียมและแมกนีเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต

เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนเราขาดแคลเซียม คือ แคลเซียมที่กินเข้าไปนั้นดูดซึมได้ไม่ดีพอเพราะปัจจัยหลายอย่างเช่น

อารมณ์พันแปร ขาดการออกกำลังกาย ช่วงของอวัยวะในการดูดซึมแคลเซียม คือลำไส้เล็กช่วงต้นมีความยาวเพียง 10- 12 นิ้วเท่านั้น

และถูกแร่ธาตุอื่นมาแทนที่ในการดูดซึม การขาดกรดอะมิโนช่วยในการดูดซึม การใช้ยาลดกรด ทำให้ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม เป็นต้น

บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาว เพื่อให้คะแนนบทความ

Average rating 0 / 5. Vote count: 0