Omega-3 มีดี จริงไหม กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์
เราเคยคงเคยได้ยิน คำว่า“Omega-3”กัน บ่อยครั้ง ในผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ หลายๆ ผลิตภัณฑ์ แต่ น้อยคนที่จะ รู้ว่าOmega-3 ดีจริงหรือไม่ และ ต้องทานอย่างไรจึงจะได้ประโยชน์ ที่สุด วันนี้ สุขภาพดีดี มีคำตอบเรื่องนี้มาฝากค่ะ
“Omega-3”เปรียบเสมือนน้ำมันที่มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยลดการสึกหรอของร่างกายโดย กลุ่มไขมันในกลุ่มกรดโอเมก้าสามมีหลายตัวแต่2ตัวที่มีบทบาทมากต่อร่างกาย ของคุณคือกรดไขมันที่มีชื่อว่า EPA และ DHA
EPAจะเด่นใน 2 ด้าน
- ลดคลอเลสเตรอรอลที่ไม่ดีซึ่งเปรียบเสมือนคราบไขมันสกปรกที่ทำให้ท่อหรือหลอดเลือดของคุณอุดตัน
- ช่วยลดการอักเสบของโมเลกุล ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายคุณสึกหรอเร็วเกินกว่าการใช้งานจริง
DHA จะเด่นในด้านเสริมการทำงานของสมอง ช่วยเสริมสร้างการรับรู้และเรียนรู้ ให้เป็นปกติได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยทารก จนถึงวัยชรา
โดย ทางเลือก ที่ร่างกายจะได้รับOmega-3 ที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือ การรับOmega-3 ในรูปแบบของอาหารเสริม ซึ่ง ส่วนใหญ่ มักจะสกัด มากจาก ส่วนต่างๆ ของปลา ออกมาในรูปแบบน้ำมันปลา นั้นเอง
ซึ่งวิธีการเลือก น้ำมันปลาที่ดี ให้มีประโยชน์ต่อ สุขภาพที่สุด มีเทคนิค เคล็ดลับ ง่าย ดังนี้ค่ะ
- เลือกน้ำมันปลาที่มีสัดส่วน DHA:EPA เท่ากับ 120:180
- เลือกน้ำมันปลาจาก ปลาในแหล่งน้ำที่สะอาด ปราศจากมลพิษ ในแทบมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่ง หากไกล จาก สารพิษ ต่างๆ เช่น ทะเลประเทศไอส์แลนด์
- เลือก น้ำมันปลาจาก ปลาสายพันธ์ ขนาดเล็ก เช่น ปลาแอนโชวี่ ซึ่งมีวงจรชีวิตอายุสั้น เพื่อลดการสะสมของสารพิษ ในทะเล
- เลือกวิธีการสกัดโดยการกลั่นแบบโมเลกุล ซึ่งวิธีการกลั่นแบบนี้ จะทำให้ได้ ความสะอาด บริสุทธิ์ ที่สุด
เพียงเท่านั้น เราก็จะได้ คุณค่าจากการทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลา เต็มคุณค่า เพื่อสุขภาพ แล้วค่ะ
