ฉี่บ่อย
อาจเสี่ยงต่อโรค ที่จะตามมา ที่ส่งผลกระทบ ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ของผู้ป่วย
บางรายไม่รู้ตัวว่า เป็นอยู่หรือป่าว ว่าตัวเอง มีอาการ ส่อแวว ว่าเข้าข่ายโรคนี้
โดยผู้ที่ เป็นโรคนี้ จะมีอาการปวดฉี่ บ่อยกว่า คนทั่วไป อย่างเช่น ฉี่ 3-5 ครั้ง
เพราะต้องลุกมา เข้าห้องน้ำบ่อย จนเกินไป จนทำให้เกิด ความรำคาญ ต่อผู้ประสบ
ปัญหาอยู่ เสี่ยงต่อ โรคไต ความดันไขมัน นิ่ว เบาหวาน ต่อมลูกหมากโต กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น
สาเหตุของการ ฉี่บ่อย ส่วนมาก มาจากพบเจอในโรค เบาหวาน การมีระดับ
น้ำตาลในเลือดสูง กว่าปกติ จะทำให้เกิด อาการ ปวดฉี่บ่อยขึ้น อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
โรคเบาหวาน ในระยะแรก ๆ จะไม่ค่อย แสดงอาการ ผิดปกติอะไร บางคนพบเจอ
เมื่อเกิดภาวะแทรก ซ้อนแล้ว อาการของโรค เบาหวาน ของแต่ละคน ต่างกันซึ่ง
อาการส่วนใหญ่ ที่พบเจอ คือ อาการ กระหายน้ำ ฉี่บ่อย ปากแห้ง หิวบ่อย
น้ำหนักลด หรือ เพิ่ม ผิดปกติ สายตาพร่ามัว มีอาการเหนื่อยง่าย บาดแผลหายยาก โดยทั้งนี้
- อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
- อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะแสดงอาการแบบช้าๆค่อยเป็นค่อยไป
และสำหรับโรคเบาหวาน ที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์จาก การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน มักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์
การรักษาโรคเบาหวาน
การรักษาเบาหวานประเภทที่ 1 จำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปทดแทนในร่างกาย
ด้วยการฉีดยา และดูแล ควบคุมอาหาร คู่กันไปด้วยและออกกำลังกาย
การรักษาเบาหวานประเภทที่ 2 ถ้าเกิดเป็น ระยะแรกๆ สามารถรักษาได้ด้วยการ ทานอาหารที่เหมาะสม
หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยควบคุมดูแล ระดับน้ำตาลในเลือด การออกกำลังกาย และ
ควบคุมน้ำหนัก ถ้าอาการไม่ดีขึ้นเลย ควรปรึกษาแพทย์ หรือ ฉีดอินซูลินเข้าไปทดแทน อย่างประเภทที่ 1 เลยก็ได้
ส่วนการรักษาเบาหวานของผู้ตั้งครรภ์ ควรไปฝากครรภ์ กับ แพทย์ตั้งแต่ใน ระยะแรกๆ และ
ควบคุมอาหารที่ เหมาะสม และ ออกกำลังกาย ตามคำแนะนำ ของแพทย์
โดยปกติคนจะฉี่แค่ 6-7 ครั้งต่อวัน
แต่ถ้าฉี่บ่อยมากกว่านั้น ก็อาจเกิดความผิดปกติ ของร่างกายแล้วเพราะฉะนั้นเรา
ต้องรู้จักการ จัดการ กับ ฉี่บ่อยจนเกินไป มันน่ากลัวกว่าที่เราคิด
เราอยากคิดว่าการ ฉี่บ่อย เป็นเรื่องปกติทั่วไป เราไปดูวิธี แก้ปัญหากันเลยครับ
1. เลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นการฉี่บ่อย
2. ฉี่จนเสร็จดี
3. ปวดฉี่จริงๆ ค่อยเข้าห้องน้ำ
4. ฝึกขมิบกล้ามเนื้อ
5. อย่าทำให้ตัวเองกังวล
6. รักษาด้วยยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร